|
สิงคโปร์ (Singapore) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นนครรัฐสมัยใหม่และเป็นประเทศที่เป็นเกาะขนาดเล็กที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่นอกปลายทิศใต้ของคาบสมุทรมลายูและอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร 1 องศา หรือประมาณ 137 กิโลเมตร ดินแดนของประเทศประกอบด้วยเกาะหลัก 1 เกาะ (แผ่นดินใหญ่), เกาะขนาดเล็กกว่าอีก 63 เกาะ และเกาะนอกอาณาเขตอีก 1 เกาะที่เรียกว่าเปดราบรังกา มีอาณาเขตติดกับช่องแคบมะละกาทางทิศตะวันตก, ติดกับช่องแคบสิงคโปร์ทางทิศใต้, ติดกับหมู่เกาะรีเยาในอินโดนีเซีย และทะเลจีนใต้ทางทิศตะวันออก และติดกับช่องแคบยะโฮร์และรัฐยะโฮร์ในประเทศมาเลเซียทางทิศเหนือ
โปรแกรมท่องเที่ยว สิงคโปร์ | 3 วัน 2 คืน
สถานที่น่าสนใจ
1. วัดศรีมาริอัมมันต์ (Sri Mariaman Temple) หรือ วัดแขก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1827 โดยกลุ่มแรงงานอพยพชาวอินเดียในสมัยที่ประเทศอังกฤษเข้ามาปกครองพื้นที่ในบริเวณนี้ วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเจ้าแม่มาริอัมมันต์ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการรักษาอาการเจ็บป่วยและบำบัดโรคภัยต่างๆ และนอกจากเป็นสถานที่สักการะแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่พบปะสำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนชาวอินเดียในยุคอาณานิคม และยังทำหน้าที่เป็นสำนักทะเบียนเพื่อจดทะเบียนสมรสสำหรับชาวฮินดูอีกด้วย
2. วัดกวนอิมตงฮุดโช (Kwan Im Thong Hood Cho Temple) สร้างมากว่า 100 ปี และมีชื่อเสียงโด่งดังมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ ใครไหว้และขออะไรมักจะสมหวังโดยเฉพาะเรื่องงาน และเรื่องเรียน ผู้คนจึงพากันมากราบไหว้ขอพรกันอย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน
3. เมอร์ไลออนพาร์ค (Merlion Park) เป็นแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ตั้งอยู่ที่ One Fullerton ใกล้กับย่านศูนย์กลางธุรกิจ เป็นที่ตั้งของ เมอร์ไลออน หรือ สิงโตเงือก สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์
 
เมอร์ไลออน เป็นรูปปั้นพ่นน้ำออกมาจากปาก สูง 8.6 เมตร และหนัก 70 ตัน ส่วนลำตัวของ Merlion ที่เป็นปลาเป็นสัญลักษณ์ของจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายของสิงคโปร์ในฐานะหมู่บ้านชาวประมง ซึ่งเรียกกันในสมัยนั้นว่า Temasek (เทมาเส็ก) ซึ่งมีรากศัพท์เดียวกันกับคำว่า ทาสิก (แปลว่า “ทะเลสาบ” ในภาษามาเลย์) ส่วนหัวของ Merlion เป็นตัวแทนของชื่อดั้งเดิมของสิงคโปร์ คือ สิงหะปุระ หรือ เมืองสิงโต ในภาษามาเลย์
4. Garden by the Bay เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นของสิงคโปร์ มีทั้งส่วนที่เปิดให้เข้าชมฟรีและส่วนที่ต้องเสียค่าเข้าชม ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 101 เฮกเตอร์ หรือราวๆ 630 ไร่ ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดอยู่ริมแม่น้ำสิงคโปร์ สวนแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา Marina Bay อันเป็นโครงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการแสดงวิสัยทัศน์และสะท้อนภาพลักษณ์ของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะทำให้ประเทศเล็กๆนี้เป็น “เมืองในสวน”
5. มารีน่า เบย์ แซนด์ (Marina Bay Sands) รีสอร์ทหรูใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ประกอบไปด้วยห้องพักและห้องสูทกว่า 2,561 ห้อง ไฮไลท์ คือ The Sands Sky Park ตั้งอยู่ชั้นที่ 57 ของโรงแรม มารีน่า เบย์ แซนด์ เป็นสถาปัตยกรรมรูปร่างคล้ายเรือตั้งอยู่บนอาคารทั้ง 3 แซนด์ สกาย พาร์คนี้ถือว่าเป็นสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่กว้างขวางกว่า 12,400 ตร.ม. และจัดเป็นสวนลอยฟ้าที่มีความสูง 200 ม. บนสวนได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม มีต้นไม้ใหญ่ 250 ต้น และไม้ประดับอีก 650 ต้น มีร้านอาหารหรูหรา และยังมี “มารีน่า เบย์ แซนด์ คาสิโน” ที่ตั้งอยู่ในตัวอาคารอันโอ่อ่าหรูหราฝั่งตรงข้ามกับตัวโรงแรม
6. Kampong Gelam (กัมโปงกลาม) ย่านร้านอาหาร และร้านขายสินค้าที่ทันสมัยในแถบนี้ที่คึกคักสนุกสนาน หนึ่งในชุมชนเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ยังเป็นแหล่งรวมร้านรวงสมัยเก่าและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เที่ยวชมย่านสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ ให้สังเกตโดมสีทองอร่ามของ Sultan Mosque (มัสยิดสุลต่าน) ที่งามสง่า ซึ่งเป็นหมุดหมายที่สำคัญในการเดินเที่ยวชมตามถนนสายหลักและตรอกซอกซอยต่างๆ ที่พลุกพล่านจอแจ
7. ลิตเติ้ลอินเดีย (Little India) เป็นย่านชุมชนของคนอินเดียที่อพยพเข้ามาใช้ชีวิตและทำงานในประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่ในสมัยสร้างประเทศ จึงมีพิธีกรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ชมตลาดและถนนคนเดินที่มีสีสันทางวัฒนธรรมของประเทศสิงคโปร์ คล้ายกับย่านไชน่าทาวน์แต่เป็นทางฝั่งของชาวอินเดียแทนซึ่งจะมีใจกลางของแหล่งช้อปปิ้งร้านค้าอยู่ที่ทั้ง 2 ฝั่งของถนน Serangoon Road มีขายสินค้ามากมายหลากหลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมอินเดีย เช่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ผักผลไม้ เครื่องเทศ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งของฝากของที่ระลึก อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ที่ขายย่านนี้มักจะมีราคาไม่แพงด้วย
8. ตรอกฮาจิ (Haji Lane) หรือ ตรอกฮัจญี เป็นถนนช้อปปิ้งสายเล็กๆที่เต็มไปด้วยสินค้าแฟชั่นจากร้านค้าและดีไซเนอร์อิสระของวัยรุ่นและหนุ่มสาวสิงคโปร์ อยู่ที่ย่าน กัมปง กีลาม (Kampong Glam) ร้านค้าส่วนใหญ่จะเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และพวกสินค้าไลฟ์สไตล์ต่างๆ เป็นที่รู้จักกันดีจากรูปภาพของร้านค้าที่ที่ตกแต่งและ ทาสีสดใสที่บ้านเรือนแบบตึกแถวสไตล์โคโลเนียล 2 ชั้น รวมทั้งภาพกราฟฟิติที่ผนังบ้านที่บ่งบอกความเป็นอินดี้ของตรอกนี้ได้อย่างดี และที่ปลายสุดของ ตรอกฮาจิ (Haji Lane) ใกล้กับถนน Beach Road จะมีพวกร้านคาเฟ ร้านอาหาร และผับสไตล์นั่งเล่น นั่งดื่มชิวๆ ไว้บริการด้วย
9. พิพิธภัณฑ์ศิลปะและวิทยาศาสตร์ (Art Science Museum) แหล่งรวมนิทรรศการที่มีชื่อเสียงซึ่งช่วยขยายขอบเขตความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และความรู้แขนงอื่นๆ นิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตสัตว์ใต้ทะเลลึก ทำให้เราได้เห็นสัตว์ใต้ท้องทะเลลึกหลากหลายชนิดและมากที่สุดเท่าที่เคยจัดแสดงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีนิทรรศการ “The Nobel Prize: Ideas Changing the World” จะแสดงผลงานที่ได้รับรางวัลโนเบลซึ่งมีบทบาทกำหนดทิศทางและยังคงมีผลเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างต่อเนื่อง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการถาวร FUTURE WORLD : Where Art Meets Science ผู้มาเยือนจะตื่นตาไปกับจักรวาลดิจิทัลแบบไดนามิกที่กินพื้นที่ 1,500 ตารางเมตรของงานศิลปะจัดวางแบบอินเทอร์ แอคทีฟ ที่แสดงความเคลื่อนไหวภายใต้ธีมต่างๆ ที่สำคัญคือ ธรรมชาติ เมือง สวนสาธารณะ และวิทยาศาสตร์
 
10. Clarke Quay ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำสิงคโปร์ เป็นย่านที่มีประวัติยาวนานมาร่วม 150 ปี ในฐานะที่เป็นท่าเทียบเรือเก่าแก่ที่ใช้ขนถ่ายสินค้าจากสำเภาโบราณที่แล่นมาจากทั้งตะวันออกและตะวันตก
• ช้อปปิ้ง Clarke Quay Central (คลากคีย์ เซ็นทรัล) ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีทั้งเสื้อผ้าแฟนชั่น ของใช้ ร้านอาหาร ให้เราได้ช้อปปิ้งกันอย่างเพลิดเพลิน นอกจากห้างแล้ว ยังมีร้านขายสินค้าพื้นเมืองบริเวณรอบๆ แม่น้ำ ให้เราได้เดินชมอีกด้วย
• ล่องเรือ Bumboat ชมแม่น้ำสิงคโปร์ เพลิดเพลินกับทัศนียภาพสองข้างทาง เส้นทางระหว่างการล่องเรือท่านจะได้สัมผัสถึงความแตกต่างของส่วนที่เป็นย่านการค้าและย่านออฟฟิศ ย่านกลางคืนที่คึกคัก ย่านพิพิธภัณท์ และผ่านสะพานอีกหลายแห่ง ทั้งสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ และสะพานใหม่ที่ทันสมัยสวยงาม โดยเส้นทางเดินเรือจะผ่าน คลากคีย์ ไปยัง โบ๊ทคีย์ และไปวน อ่าวมาริน่า กลับมายังเส้นทางเดิม ใช้เวลารอบละประมาณ 40 นาที
11. ไชน่าทาวน์ (Chinatown) สัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนในประเทศสิงคโปร์ สักการะเจ้าแม่กวนอิมศักดิ์สิทธิ์ที่คนสิงคโปร์นับถืออย่างมากและให้ท่านได้เลือกซื้อขนมต่างๆและเครื่องยาจีนที่มีมากมายจากหลากหลายร้านค้า
12. วัดพระเขี้ยวแก้ว (Buddha Tooth Relic Temple) สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว ของพระพุทธเจ้า วัดพระพุทธศาสนาแห่งนี้สร้าง สถาปัตยกรรม สมัยราชวงศ์ถัง วางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1มีนาคม 2005 ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมดราว 62 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 1500 ล้านบาท) ชั้นล่างเป็นห้องโถงใหญ่ใช้ประกอบศาสนพิธี ชั้น 2-3 เป็นพิพิธภัณฑ์และห้องหนังสือ ชั้น 4 เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว (ห้ามถ่ายภาพ)
13. ถนนออร์ชาร์ด (Orchard) ย่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมรุ่นใหม่ล่าสุด จะถูกนำมาวางขายตามห้างสรรพสินค้า ที่ตั้งอยู่บนถนนสายนี้เป็นแห่งแรก ถนนออร์ชาร์ดจัดได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก เพราะว่ามีศูนย์การค้า ร้านค้า และโรงแรมชั้นดีมากมายตั้งอยู่เรียงราย สองฝั่งถนน อาทิเช่น ห้าง TAKASHIMAYA, ISETAN, TANG และอื่นๆอีกมากมาย
14. Jewel Changi Airport ห้างหรูแห่งใหม่ใกล้ในสนามบิน เป็นการผสมผสานกันระหว่างธรรมชาติและความก้าวหน้าทางวิศวกรรมภายในอาคารกระจกที่โดดเด่น ซึ่งจะเห็นได้จากสวนป่าเขียวชอุ่ม Forest Valley และน้ำตก Rain Vortex อันสวยงามซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของอาคารนี้ Rain Vortex ถือเป็นน้ำตก Indoor ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูงถึง 40 เมตร
|
